นายอุปถัมภ์ลูกศิษย์เอก

นายถัมผู้นี้เป็นผู้ใกล้ชิดท่านพ่อมาก เป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย อยู่กับท่านพ่อมาแต่เล็กๆ เรียกว่าอายุน้อยกว่าศิษย์รุ่นพี่ แต่รู้เรื่องท่านมากที่สุดเพราะอยู่ใกล้ชิดบีบนวดท่าน นายถัมเล่าว่า ท่านพ่อท่านชอบลูกศิษย์ที่สู้คนแต่ไม่เกเร นายถัมสมัยอยู่กับท่านพ่อ เวลาจะไปเที่ยวไหนๆ ยามค่ำคืนที่ละแวกแถวบ้านปากน้ำมีงาน ก็จะเข้าไปขออณุญาตจากท่าน ท่านพ่อท่านก็จะให้ไปและท่านก็จะพ่นหัวให้ 3 ที เรียกว่าน้ำหมากติดหัวแดงไปหมดเพราะท่านพ่อท่านชอบฉันมาก และเมื่อนายถัมออกไปเที่ยวรับรองว่าเลือดจะไม่ตกยางไม่ออกแน่นอน ลุงถัมบอกว่าสมัยนั้นแกไปมีเรื่องมีราวหลายครั้งหลายหน เคยโดนแทงล้มคว่ำลง แต่คมมีดหาระคายผิวไม่ ลุกขึ้นมาได้ก็คว้าไม้ไล่ตีคนแทงจนวิ่งกระเจิงไปยันบ้านของคนที่แทงนั้น เคยโดนรุมก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง เรียกว่าสมัยนั้นถึงแกจะตัวเล็ก แต่นักเลงตัวใหญ่พากันคร้ามข้อยิ่งนัก เกรางนความหนังเหนียวนั่นเอง เอ่ยชื่อว่า ไอ้ถัมลูกศิษย์ท่านพ่อสุ่น หามีใครกล้ายุ่งด้วยไม่ ท่านพ่อตอนค่ำถ้านายถัมขอไปเที่ยว ท่านก็จะหรี่ตะเกียงไว้คอยท่านายถัมกลับมา แล้วท่านก็นอนอยู่ใกล้ๆ ตะเกียงนั้น นายถัมกลับมาก็จะรู้เส้นตรงเข้าบีบขาท่านเป็นการประขบทันที ท่านพ่อซึ่งท่านก็เป็นห่วงลูกศิษย์ของท่านอยู่แล้ว ท่านก็จะเอ่ยถามนายถัมทันทีว่า ” ไงอยู่ ไงอยู่ ไอ้ถัมคืนนี้หนักไม๊ หนักไม๊ ” ถ้านายถัมตอบว่า ” หนักเหมือนกันครับท่านพ่อ ” ท่านพ่อท่านก็จะรับลุกขึ้นถามต่อทันทีว่า ” แล้วใครเสียท่า แล้วใครเสียท่า ” นายถัมก็จะตอบแบบยอท่านในตัวทันทีว่า ” ผมลูกศิษย์ท่านพ่อ จะเสียท่าใครได้หรือครับ ผมไล่ต่อยไอ้พวกนั้นกระเจิงไป ” ท่านพ่อท่านก็จะตบเข่าท่านฉาดทันทีแล้วพูดว่า ” นั่นซิวะไอ้ถัม มันต้องอย่างนั้นซิวะ ” นี่เป็นการแสดงถึงความรักของผู้ที่อยู่ในความปกครองของท่าน ไม่ว่า คน หรือสัตว์ จะต้องได้รับความคุ้มครองไม่ให้ได้รับอันตราย และได้รับความคุ้มครองให้อยู่ในความกระพันชาตรีเท่ากันหมด และนายถัมเป็นผู้เข้าใจในอักขระขอม และมีลายมือในการเขียนอักขระขอมสวยงามมาก นายถัมผู้นี้จึงเปรียบดังมือขวาของท่านและในการให้ช่วยลงนั้นท่านจะมีแบบให้นายถัมดูและให้ลอกตาม เสร็จแล้วท่านก็จะปลุกเสกของท่าน นายถัมเล่าว่า ท่านพ่อท่านมีบารมีเมตตายิ่งนักสัตว์ทุกชนิดขอให้มือท่านถูกหรือได้กินข้าวจากมือท่าน จะพากันเชื่องและรักท่านยิ่งนัก ตอนค่ำๆ ท่านพ่อท่านจะไปก่อไฟให้คอกวัวและคอกม้าของท่านเป็นประจำทุกวัน และถ้าท่านเดินไปคอกม้า ม้าก็จะพากันร้องเสียงดังลั่นไปหมด ถ้าไปคอกวัว วัวก็พากันร้องเสียงอื้ออึงอย่างดีใจ และถ้าท่านเดินไปที่กรงนกเขา นกเขาก็จะพากันคูและขันอวดท่านทันที และสัตว์ทุกชนิดของท่านที่อยู่บนวัดจะไม่ทำกัน เช่นหมาจะไม่ไล่กัดไก่ จะอยู่กันอย่างสงบเป็นที่ประหลาดยิ่งนัก

ใส่ความเห็น