โดนเลื่อยล้อเกวียน

ท่านพ่อสมัยก่อนเวลาท่านจะไปไหนท่านจะมีเกวียนนั่งไป และมีวัวที่เทียมเกวียนอยู่ 4 ตัว ชื่อไอ้ต่าย ไอ้เต้น ไอ้หยี่ ไอ้ทราย วัว 4 ตัว นี้ล่ำสันแข็งแรงและมักจะไม่เชื่อฟังใครง่ายๆ แต่ถ้าวันใดที่ท่านพ่อมีธุระจะไปไหนและพอท่านพ่อก้าวลงจากวัดและเดินไปที่เกวียน วัว 4 ตัวนี้ จะพากันวิ่งไปที่เทียมเกวียนเองทันที และที่ท่านโดนเลื่อยล้อเกวียนก็มีเหตุดังนี้ ครั้งหนึ่งมีชายผู้หนึ่งชื่อ “เนย” มีบ้านอยู่ในละแวกใกล้วัด มานิมนต์ท่านพ่อให้ไปรักษาโรคให้ภรรยาของตนซึ่งกำลังป่วยอยู่ที่บ้าน แต่เผอิญวันที่นายเนยมานิมนต์ท่านพ่อนั้น มีคนมานิมนต์ท่านไว้ก่อนแล้ว ท่านพ่อท่านก็ว่า “เออ ไอ้เนย เดี๋ยวกูไปบ้านที่เขามานิมนต์ก่อน เสร็จแล้วกูจะไปรักษาให้ เพราะเขามานิมนต์ก่อน กูก็ต้องไปให้เขาก่อน และเขาก็ป่วยหนักเหมือนกัน “นายเนยเมื่อกลับมาถึงบ้านและอีกไม่นานภรรยาซึ่งคงจะป่วยหนักอยู่แล้วก็เกิดตายลง นายเนยเมื่อภรรยาตายลง ก็คิดอาฆาตแค้นท่านพ่อ คิดไปว่าเป็นเพราะไปนิมนต์ท่านพ่อแล้วไม่ยอมมาทันทีจึงทำให้ภรรยาของตนต้องตาย นายเนยจึงคอยหาโอกาสแก้แค้นท่านพ่อตลอดมา จนคืนหนึ่งมีโอกาสจึงเอาเลื่อยแอบไปเลื่อยเพลาล้อเกวียนเกือบขาด กะว่าถ้าวันไหนท่านพ่อมีธุระใช้เกวียนไป เพลาล้อเกวียนก็จะขาดลงและคงจะทำให้ท่านพ่อได้รับบาดเจ็บสมใจแค้นเป็นแน่ หรือปะเหมาะเคราะห์ดีอาจจะถึงตายก็ยิ่งดีเข้าไปอีก และวันหนึ่งท่านพ่อท่านก็มีธุระจะใช้เกวียนจริงๆ ท่านพ่อพอท่านก้าวขึ้นเกวียนและนั่งลง ท่านก็ดูเหมือนจะรู้ด้วยญานของท่านว่ามีคนแกล้งท่าน ท่านก็สั่งลูกศิษย์ท่านว่า วันนี้อย่าให้วัวมันวิ่งเร็วนักให้มันไปของมันเรื่อยๆ พอวัววิ่งไปสักครู่เพลาล้อเกวียนที่นายเนยเลื่อยไว้ก็ขาดลง ลูกศิษย์ที่ติดตามไปด้วยคือ ด.ช. เฮ้า (พระครูประศาสสิทธิการ) หน้าก็กระแทกกับไม้หัวแตกมีรอยแผลเป็นจนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนท่านพ่อท่านก็ถูกแรงกระแทกของเกวียนที่ล่มกระแทก เจ็บบ้างเป็นธรรมดา ถึงตอนนี้ท่านจึงพูดเปรยๆ ขึ้นว่า “เออ กรรมใดใครมันแกล้งกู กรรมก็ต้องสนองเอง และมันจะไม่ตายถิ่นนี้หรอก ” และนี่ก็ดูเหมือนจะเป็นคำประกาศิตของท่านจริงๆ นายเนยผู้นี้ตอนตายแทบจะไม่มีเสื้อผ้าใส่ ตายกลางดินแบบอนาถาที่สุดโดยไปตายแถวเขาสระบาป จันทบุรี

ใส่ความเห็น