ท่านพ่อสุ่นท่านเล่าให้ลุงฟังว่า พระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) มาที่วัดปากน้ำแหลมสิงห์ประมาณเดือน 12 พ.ศ.2448 – 2449 และเดือน 12 อยู่ในระหว่างคลื่นใหญ่ลมจัดมีพายุ ท่านเสด็จมาโดยเรือใหญ่จอดไว้ที่หน้าเกาะ แล้วลงเรือเล็กมาและได้ทอดกฐิน ที่วัดด้วย รัชกาลที่ 5 ท่านทรงมีนิสัยชอบผจญภัยอยู่แล้ว ท่านอยากเสด็จประพาสเมืองจันทน์โดยใช้เรือพาย พายไปจากแหลมสิงห์เข้าแม่น้ำจันทบุรี ชาวบ้านก็พากันกราบทูลคัดค้านไม่ให้ท่านไป กลัวเรือจะจม เพราะคลื่นใหญ่ลมจัดเหลือเกิน แต่รัชกาลที่ 5 ท่านไม่ทรงเชื่อ ท่านได้บอกกับท่านพ่อว่าท่านจะไปเมืองจันทน์โดยเรือพาย ท่านพ่อท่านก็ว่า “เมื่อมหาบพิตรจะไปอาตมาก็ขอให้โชคดี” รัชกาลที่ 5 ท่านก็ว่า “ชาวบ้านคัดค้านไม่ให้ไปเพราะกลัวเรือจะจมหลวงพ่อเห็นเป็นยังไงครับ” ท่านพ่อท่านก็ว่า “วันที่มหาบพิตรเดินทางคงจะไม่มีอะไร” และก็เป็นที่น่าอัศจรรย์นัก พอวันที่รัชกาลที่ 5 ท่านจะเดินทางเข้าประพาสจันทน์โดยใช้เรือพาย เช้านั้นเองคลื่นลมพายุใหญ่ที่พัดกระหน่ำอยู่อย่างรุนแรง ก็สงบราบคาบลงเหมือนจะรู้เห็นเป็นใจในการที่จะให้รัชกาลที่ 5 ท่านประพาสเมืองจันทน์สมความปรารถนาของท่าน และสมคำท่านพ่อที่ว่า “คงไม่มีอะไร” เพราะรัชกาลที่ 5 บุญญาธิการของท่านก็สูงส่งและท่านพ่อวาจาของท่านก็ประกาศิตอยู่แล้ว ประชาชนชาวบ้านปากน้ำฯทั้งข้าราชการที่ไปส่งท่านพากันโห่ร้องสรรเสริญบุญบารมีของท่านไปตามๆกัน